การแพทย์แผนไทย หรือ การแพทย์แผนโบราณ (Thai Traditional medicine) เป็นศาสตร์ที่อยู่คู่ประเทศไทยมากว่า 1,300 ปี มีต้นกำเนิดในสมัยสุโขทัย (ปี พ.ศ. 1238-1377) โดยเป็นการแพทย์ที่อาศัยความรู้และภูมิปัญญาของคนไทย ที่ได้ทดลอง ปฏิบัติจริงแล้วได้ผล แล้วจึงสะสมถ่ายทอดสืบต่อกันมา โดยส่วนใหญ่เน้นไปที่การป้องกันมากกว่ารักษา ซึ่งคนไทยโบราณ สมัยที่ยังไม่มีการแพทย์แผนตะวันตกและตะวันออกอื่นๆ อย่างทุกวันนี้ ล้วนดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยด้วยกันทั้งนั้น
โดยศาสตร์การแพทย์แผนไทย จะประกอบไปด้วยวิชาชีพ 4 ด้าน ได้แก่
- เวชกรรมไทย เป็นการตรวจและรักษาโรคตามกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะรักษาคนไข้ด้วยยาสมุนไพร
- เภสัชกรรมไทย เป็นการปรุงยา และผลิตยาสมุนไพรสำหรับรักษาโรค
- หัตถเวชกรรมแผนไทย เป็นการบำบัดรักษาโรคด้วยวิธีหัตถบำบัด เช่น นวดไทย ประคบสมุนไพร
- ผดุงครรภ์ไทย เป็นการดูแลมารดาตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด
ซึ่งการแพทย์แผนไทย ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างชาติมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการนวดไทยหรือนวดแผนโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรไทย ซึ่งในปี พ.ศ. 2528 ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของวงการแพทย์แผนไทย ซึ่งมีการร่วมมือกันจากหลายภาคส่วน จัดสัมมนาฟื้นฟูการนวดไทยเป็นครั้งแรก และได้ก่อตั้งโครงการฟื้นฟูการนวดไทย ซึ่งโครงการนี้มีส่วนทำให้มีการใช้การนวดไทยแพร่หลายมากขึ้นในหมู่ประชาชน รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำโครงการสมุนไพรกับการสาธารณสุขมูลฐาน โดยความร่วมมือของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐ เยอรมัน เน้นการทดลองใช้ สมุนไพร 5 ชนิดในคลินิกของโรงพยาบาลชุมชน 5 แห่ง จากโครงการทัังหมดนี้ ทำให้ประเทศของเราเริ่มใช้ยาสมุนไพรไทยและการนวดไทยเพื่อการรักษาโรคในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โดยในปี พ.ศ. 2562 มีแผนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ให้นำการแพทย์แผนไทยกลับมาใช้ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างจริงจัง ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคง คุณภาพ และประสิทธิภาพของระบบการแพทย์และสาธารณสุข ในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสุขภาพ ช่วยให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพตนเองและชุมชนด้วยการแพทย์แผนไทยได้
ทั้งแรงสนับสนุนของภาครัฐและผลลัพธ์ของการรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยที่ตอบโจทย์ประชาชนส่วนมาก รวมถึงการประชาสัมพันธ์ทั้งสื่อในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การแพทย์แผนไทยเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เห็นได้จากการที่มีการส่งออกสมุนไพรไทยไปต่างประเทศ จนเป็นหนึ่งในแหล่งเศรษฐกิจของไทย และโรงพยาบาลใหญ่ต่าง ๆ ก็มีการบรรจุแผนกการแพทย์แผนไทยเข้าไปเพื่อใช้ในการรักษาร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบันด้วยนั่นเอง
ทั้งนี้การแพทย์แผนไทยยังกลับมามีกระแสอีกครั้งอย่างชัดเจนตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เนื่องจากเกิดภาวะจำนวนผู้ป่วยมากเกินศักยภาพของระบบสาธารณสุขในไทยที่จะรองรับได้ เกิดเหตุการณ์ขาดแคลนเตียง วัคซีน และยารักษาโรค ทำให้ผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่อยู่ในระยะเฝ้าระวังต้องกักตัวและรักษาตัวอยู่ที่บ้าน หรือที่เรียกว่า Home Isolation โดยทีมแพทย์ได้มีการนำเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เข้ามาให้บริการ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่เข้าไม่ถึงระบบการรักษา ทำให้คนเริ่มหันมาหาวิธีในการรักษาตนเอง เพื่อให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ด้วย “ยาสมุนไพรไทย” อย่างฟ้าทะลายโจร และกระชาย ที่มีผลวิจัยยืนยันในการยับยั้งเชื้อโควิด-19 ถูกตีพิมพ์ในวารสารงานวิจัยหลายฉบับก่อนหน้านี้ จึงทำให้แพทย์แผนไทยกลับมาเป็นกระแสอีกครั้งในปัจจุบัน
โดยจุดเด่นของการแพทย์แผนไทยนั้น นอกจากเน้นไปที่การป้องกันโรคแล้ว การแพทย์แผนไทยยังเน้นไปที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมด้วย ซึ่งก็คือดูแลสุขภาพร่างกาย สขภาพจิตใจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยหลักธรรมานามัย ซึ่งมีทั้งหมด 3 ส่วนได้แก่
- กายานามัย คือ การดูแลร่ายกายให้มีสุขภาพที่ดี เช่น การกินอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลาย พออิ่ม กินอาหารตามธาตุ การดื่มน้ำสมุนไพร การออกกำลังกายแบบไทย เช่น กายบริหารฤๅษีดัดตน นวดไทยส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้น
- จิตตานามัย คือ การดูแลจิตใจให้มีสุขภาพที่ดี เช่น การทำสมาธิ ฝึกสติให้สามารถรับมือกับภาวะทางอารมณ์ที่ไม่ดีได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้สุขภาพจิตดี ผ่อนคลายความเครียด และเมื่อจิตใจสุขภาพดี ร่างกายภายนอกก็จะดีไปด้วย เป็นการสุขภาพดีจากภายในที่แท้จริง
- ชีวิตานามัย คือ การดำเนินชีวิตปกติอย่างมีสติ การตั้งใจให้พฤติกรรมหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ เป็นไปในทางที่ดี เช่น การทำอาชีพสุจริต ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่น สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดที่อยู่อาศัย สร้างสังคมรอบข้างที่ดีและน่าอยู่ เป็นต้น
โดยทาง B-Healthy เองก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ที่เล็งเห็นถึงโอกาสในการใช้ศาสตร์แพทย์แผนไทยเข้ามาผสมผสาน เพื่อมอบการดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอกให้ผู้ใช้บริการได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จึงออกแบบแพ็กเกจสุขภาพที่เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้บริการแต่ละคน ออกมาให้เลือกใช้บริการกันด้วยค่ะ หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรืออยากสอบถามเกี่ยวกับแพ็คเกจสุขภาพต่าง ๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Line Official: @bhealthyme ได้เลยนะคะ
แหล่งข้อมูล:
https://www.thairath.co.th/news/society/2152508
https://tpd.dtam.moph.go.th/images/oic/E-Book/TTM_PR_ENG_Final_resize.pdf
http://med-j3-taimc.blogspot.com/2012/05/history-of-medicine.html
https://www.matichon.co.th/publicize/news_1534634